ก่อนจะเรียกตัวเองว่าเป็น UX Professional

ผมไปเจอ บ่นความ ขอใช้คำว่า บ่นความ ละกันเพราะเป็นการบ่นๆ เซ็งๆ ของ Ryan Carson ที่พูดเกี่ยวกับคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น UX Professional ครับใจความมีว่า:

การที่คุณจะบอกว่าตัวเองนั้นเป็น UX Professional นั้นใช่ว่าคุณจะออกแบบ website เป็นเท่านั้น หากแต่ต้องเข้าใจไปถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย Web Designer คนใดที่เรียกตัวเองว่า UX Professional นั้นผมขอยกให้เป็นพวก “ไร้สาระ” และขอบอกไว้เลยว่า คำว่า “UX Professional” นั้นจะกลายเป็นแค่คำหลอกๆ ให้ลูกค้าที่ไม่มีความรู้ ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ หลงเชื่อ และ จ่ายเงินให้คุณก็เท่านั้น

สำหรับผมที่คว่ำหวอดอยู่ในอุตสาหกรรม website มากว่า 10 ปีนั้นนิยามคำว่า UX Professional ของผมต้องมีความรู้ใน field งานเหล่านี้ทั้งฝั่ง creativity, architecture และฝั่ง production

Production และ Architecture สิ่งเหล่านี้ต้องอยู่ในขั้น Advance เลยนะครับ:

1. HTML (แน่นอนต้องปัจจุบัน ทันสมัยด้วยนะ HTML5 ต้องรวมไว้ด้วย)
2. CSS (แน่นอนเช่นกันมันหมายถึง CSS3 ด้วย)
3. หลักการณ์ออกแบบเพื่อการตอบโต้กับผู้ใช้งาน
4. การเข้าถึงได้ของข้อมูล (Accessibility)
5. ความง่ายในการใช้งาน (Usability)
6. การทดสอบการใช้งาน (User Testing)

ผมขอเสริมข้อ 6 นิดนึงนะครับ (เป็นความคิดของ รดิส):

การเข้าใจใน user testing นั้นหมายถึง be consumer! (ขอยกคำพูดติดปากของ @errorlloyd ที่ผมมักได้ยินบ่อยๆ มาใช้นะครับ) เพราะฉะนั้นเมื่อทำ user testing บ่อยๆ ถ้าคุณเข้าใจและจำได้ ว่ากลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มเป็นอย่างไร จะเป็นประโยชน์ในการทำงานของคุณมาก ซึ่งผมหมายถึง การคิดผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การวางแผนระบบ การ implement การ maintenance และ อื่นๆ ทั้งหมดในสายพาน อ่ะทีนี้เราไปมองทางฝั่ง creativity ครับ

Creativity สิ่งเหล่านี้คุณต้องมีความเข้าใจพื้นฐาน หรือมากกว่าจะดีมาก:

1. Copy Writing
2. JavaScript
3. Marketing
4. A/B และ multivariate Testing

นั่นถึงจะเรียกได้ว่าเป็น UX Professional

ขยายความเพิ่มเติมตามความเห็นของผม:

การออกแบบงานหนึ่งๆ เราต้องมองข้ามเรื่องทำประจำวัน ไปแล้วด้วยว่าเราจะทดสอบ user ด้วยวิธีไหน ตั้งโจทย์ไว้ในใจแล้วว่าการออกแบบ แบบนี้เราจะต้อง ทดสอบ user อย่างไร เพื่อให้ได้ผลที่ต้องการว่า user เข้าใจในงานที่เราจะทำหรือไม่ เช่น บริเวณที่เราต้องการให้ click นั้น จะถูก user click กี่ % ถึงจะเรียกว่า ผ่าน และ ใช้งานได้ ถ้าผลทดสอบออกมาแล้ว ไม่ผ่านเรามีแผนอะไรที่จะรองรับมันต่อ

เพราะฉะนั้นการจะเป็น UX Professional ได้จะต้องเข้าใจในงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ และ ต่อยอดไปถึงองค์รวมทั้งหมดได้ มีการวางแผนทั้งโครงสร้าง วิธีการนำเสนอ การวางแผนเผื่อการต่อยอดทำงานต่อ การเขียนเนื้อหา เตรียมเนื้อหาให้จูงใจ สุดท้ายคือเราจะเตรียมพร้อม วิเคราะห์ คิดค้น และ สร้างสิ่งใหม่ที่แตกต่างได้ ถ้ายังไม่เข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้ อย่าเพิ่งเรียกตัวเองว่า UX Professional

บทจบ:

เนื้อหาของบทความนี้ อาจจะเป็นเรื่องที่มีอยู่มานานแล้วในประเทศไทย เป็นเรื่องที่เราเข้าใจและทำกันมานมนานเพียงแต่หาคำนิยามให้กับมันไม่ได้ หรือ ทำอยู่ทุกๆ วันไม่ได้สังเกต ผมเชื่อว่าในประเทศของเรานั้นมีหลายๆ คนที่เป็น UX Professional และ คว่ำหวอดเชี่ยวชาญ แต่ไม่เปิดเผยตัวตน และ ผมขอขอบพระคุณ คนที่คว่ำหวอดในศาสตร์เหล่านี้ ที่ให้ความรู้แก่ผม ทั้งทางตรง และ ทางอ้อมครับ จุดประสงค์สุดท้ายผมหวังไว้อย่างยิ่งว่า อีกหลายๆ คนที่กำลังโกหกคนอื่น และ ตัวเองอยู่ จะเข้าใจ สำนึกและคิดอะไรได้บ้าง ขอบพระคุณครับ